ช่วงนี้ชาเขียวกลายเป็นเมนูยอดนิยม ทั้งในรูปแบบเครื่องดื่มและขนม แต่รู้หรือไม่ นอกจากความอร่อยแล้ว ชาเขียวยังมีประโยชน์มากมาย เช่น ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเผาผลาญ ควบคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ วันนี้เราจะพามารู้จัก 8 ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง รสชาติแต่ละชาต่างกันไหม และเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาดูกัน

Cr. Sanook.com – Travel
8 ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น

Cr. Sanook.com – Travel
1. เซนฉะ (Sencha)
ชาเซนฉะเป็นชาเขียวที่ได้รับความนิยมและบริโภคมากที่สุดในญี่ปุ่น ผลิตโดยวิธีการทั่วไปคือการนำใบชาไปนึ่งแล้วม้วนให้เป็นเส้น ทำให้ได้รสชาติสดชื่น หอมละมุน และมีความฝาดอ่อน ๆ

Cr. Sanook.com – Travel
2. ฟุคามุชิ เซนฉะ (Fukamushi Sencha)
ชาเซนฉะที่ผ่านการนึ่งนานกว่าปกติประมาณสองเท่า จึงเรียกว่า “ฟุคามุชิ” ซึ่งหมายถึง “การนึ่งเป็นเวลานาน” ใบชาจะมีเนื้อที่ละเอียดขึ้น ชามีสีเขียวเข้ม รสชาติเข้มข้นขึ้นแต่ไม่มีรสฝาดหรือกลิ่นหญ้า ทำให้สามารถดูดซึมสารอาหารจากชาได้ดีขึ้น

Cr. Sanook.com – Travel
3. เกียวคุโระ (Gyokuro)
ชาเขียวชั้นสูงที่ต้องมีการคลุมต้นชาก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 20 วัน เพื่อป้องกันแสงแดดและลดการเปลี่ยนแปลงของอะมิโนแอซิดเป็นคาเทชิน ทำให้ชาเกียวคุโระมีรสชาติหวานนุ่ม ไม่มีความฝาด และมีกลิ่นหอมคล้ายสาหร่ายทะเล

Cr. photoAC
4. คาบุเซฉะ (Kabusecha)
ชาเขียวที่ใช้วิธีคลุมต้นชาก่อนเก็บเกี่ยวเช่นเดียวกับเกียวคุโระ แต่ใช้เวลาสั้นกว่าเพียงประมาณ 1 สัปดาห์ ส่งผลให้มีสีเขียวเข้ม รสชาติเข้มข้น และมีความฝาดต่ำกว่าชาเซนฉะ

Cr. Sanook.com – Travel
5. มัทฉะ (Matcha)
มัทฉะเป็นชาเขียวบดละเอียดที่ได้จาก “เทนฉะ” ซึ่งนำไปบดด้วยหินจนเป็นผงละเอียด มัทฉะแบบเข้มข้น (Koicha) ถูกใช้ในพิธีชงชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมหลักในขนมและอาหารต่าง ๆ อีกด้วย จุดเด่นของมัทฉะคือการดื่มแล้วได้รับสารอาหารจากใบชาแบบเต็ม ๆ

Cr. Kyobashi Tea
6. เทนฉะ (Tencha)
ชาเทนฉะเป็นชาที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตมัทฉะ โดยต้นชาจะถูกคลุมก่อนเก็บเกี่ยวคล้ายกับเกียวคุโระ แต่หลังจากการนึ่ง ใบชาจะถูกทำให้แห้งโดยไม่ผ่านการม้วน จากนั้นนำไปคัดแยกก้านและเส้นใบออกจนเหลือเป็นชิ้นใบบริสุทธิ์

Cr. Sanook.com – Travel
7. เก็นไมฉะ (Genmaicha)
ชาเก็นไมฉะเป็นชาเขียวที่ผสมกับข้าวกล้องคั่ว ซึ่งทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากความหอมของข้าวคั่วและความสดชื่นของชาเซนฉะ คาเฟอีนต่ำ เหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

Cr. Sanook.com – Travel
8. โฮจิฉะ (Hojicha)
ชาโฮจิฉะได้จากการนำชาเซนฉะหรือชาชนิดอื่น ๆ มาคั่วในอุณหภูมิประมาณ 200°C ทำให้มีสีแดงน้ำตาลและมีกลิ่นหอมไหม้อ่อน ๆ คาเฟอีนลดลง ทำให้เป็นชาที่ดื่มง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ชาเขียวแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกัน เลือกชาที่ถูกใจ แล้วดื่มด่ำกับเสน่ห์ของชาเขียวญี่ปุ่นกันได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Sanook.com – Travel
โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น ที่เที่ยวญี่ปุ่น : https://www.vinteam.co.th/search-tour/?country=japan&search-country=0&code=0&startdate=0&enddate=0&month=0&searchword=0
8 ประเภท ชาเขียว ญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง? รสชาติต่างกันไหม? ของกินญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์ทั่วโลก ไปกับ VIN TEAM TRAVEL
สนใจบริการติดต่อ : บริษัท วี.ไอ.เอ็น.ทีม จำกัด / วิน ทีม ทราเวล
Mobile : 080-113-5495, 099-492-9053
ID Line : @vinteam
Email : vinteam.co.ltd@gmail.com